เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วกับ Samsung Gear S2 ที่มีหน้าตาโดดเด่น สวยงาม โฉบเฉี่ยวในแบบฉบับของ Wearable สไตล์แฟชั่นในรูปลักษณ์หน้าปัดที่เป็นทรงกลมที่ สามารถเชื่อมต่อการใช้งานกับ 3G ได้ และยังมีฟังก์ชั่นเกี่ยวกับการออกกำลังกายมาให้อย่างครบครัน
หลังจากที่ได้เห็นภาพการถ่ายแฟชั่นแบรนด์ของเจ้านาฬิกาข้อมือสุดอัจฉริยะตัวนี้บนหน้าปกนิตยสารแฟชั่นกันมาบ้างแล้ว วันนี้ผมเองก็มีภาพตัวอย่างมาให้ชมกันแบบเต็มๆ ครับ แต่ก่อนอื่นผมต้องบอกเลยว่าเจ้านาฬิกา Gear S2 ตัวนี้ หน้าตาเปลี่ยนไปจาก Gear S รุ่นแรกมากๆ เปลี่ยนกันจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบคนละอารมณ์เลยก็ว่าได้ด้วยดีไซน์ที่ดูแฟชั่นจ๋า และมีเรือนหน้าปัดเป็นวงกลมที่มีวงแหวนรอบจอที่สามารถหมุนเพื่อปรับเลือกเมนูได้ และตัวเรือนยังทำออกมาถึง 2 แบบให้ได้เลือกกันนั่นก็คือ Gear S2 รุ่นสายแบบสปอร์ต และรุ่นสายหนังแบบคลาสสิค
คุณสมบัติของ GEAR S2 SPORT และ GEAR S2 CLASSIC
- หน้าจอ : 1.2 นิ้ว , หน้าจอเป็นแบบ Super AMOLED หน้าจอขนาด 360×360 ความละเอียด 302 ppi
- หน่วยประมวลผล : Dual core 1.0 GHz
- ระบบปฎิบัติการ : Tizen based wearable platform
- เสียง : Codec: MP3/AAC/AAC+/eAAC+
- รองรับไฟล์ : MP3, M4A, AAC, OGG
- หน่วยความจำ : หน่วยความจำภายใน 4GB / RAM 512MB
- กันน้ำกันฝุ่น : IP68 กันฝุ่นและกันน้ำ
- บริการ : Samsung Gear Apps
- การเชื่อมต่อ :Wi-Fi: 802.11 b/g/n, Bluetooth® 4.1, NFC
- เซนเซอร์ : Accelerometer, Gyroscope, Heart Rate, Ambient Light, Barometer
- ขนาด : Gear S2: 42.3×49.8×11.4mm (47g) / Gear S2 classic : 39.9×43.6×11.4mm (42g)
- แบตเตอรี่ : Wireless Charging 250 mAh Li-ion ใช้งานได้ 2-3 วัน
ฟีเจอร์หลัก
การติดต่อสื่อสาร
– รายชื่อผู้ติดต่อ, การแจ้งเตือน, ข้อความ, อีเมล , การตั้งค่าข้อความล่วงหน้า, การใส่เสียง, และEmoticons
สุขภาพและการออกกำลัง
– S Health, Nike+ Running
ข้อมูลทั่วไป
– ตารางปฏิทิน, ข่าว, แผนที่และการนำทาง , อากาศ
สื่อบันเทิง
– เครื่องเล่นเพลง, อัลบั้มรูป
อื่น ๆ :
– เสียง, เครื่องบันทึกเสียง, Find My Device, Power Saving Mode, Safety assistance, Privacy lock
สำหรับฟีเจอร์เกี่ยวกับฟิตเนสและสุขภาพที่ด้านหลังจะมีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ( Heart Rate Monitor ) และยังมีแอพ Nike+ สำหรับใช้ในการเก็บข้อมูลการออกกำลังกายและการวิ่งได้ด้วย และนอกจากนี้ Gear S2 เองก็ยังคงใช้ระบบปฎิบัติการเป็น Tizen for Wearable อยู่ซึ่งนอกจากจะใช้งานในการแจ้งเตือนตารางนัดหมาย, อีเมล, ข่าวสาร และ Social Network ต่างๆ แล้วสำหรับรุ่นสายแบบสปอร์ตจะมีรุ่นรองรับการเชื่อมต่อผ่าน 3G และเป็นนาฬิกาสุดอัจฉริยะรุ่นแรกที่ใช้ระบบของ e-SIM ที่สามารถใช้โทรและสนทนาแบบเสียงได้อีกด้วย และก็ไม่แน่ว่าในงาน Thailand Mobile Expo 2015 วันที่ 1-4 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เราอาจจะได้เห็นตัวจริงกันครับ ยังไงรอติดตามข่าวกันต่อไปผมจะมาอัพเดทให้ได้ทราบกันเรื่อยๆ ครับ