Samsung Galaxy J7 Pro : สมาร์ทโฟนดีไซน์เก๋เครื่องเดียวครบ จบในราคาแค่ 10,900 บาทเท่านั้น

อย่างที่ทราบกันดีว่าเจ้า Samsung Galaxy J7 Pro สมาร์ทโฟนระดับกลางที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ของซัมซุงนั้น เป็นเวอร์ชั่นอัพเกรดของซีรี่ย์ J7 ตัวก่อนหน้าที่ว่ากันว่ามีความเป็นมือโปรเพิ่มมากขึ้นในหลายๆด้านตามชื่อที่ลงท้ายเลย ว่าแต่จะมีความโปรอะไรเพิ่มมาให้บ้างเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ 

Samsung Galaxy J7 Pro

Samsung Galaxy J7 Pro

การออกแบบและดีไซน์

มาเริ่มกันที่ดีไซน์ภายนอกตัวเครื่องกันก่อนเลยดีกว่าค่ะ รุ่นนี้มาพร้อมขนาดตัวเครื่อง 152.4 x 74.7 x 7.9 มิลลิเมตร หนัก 168 กรัม ถือเป็นขนาดที่จับพอดีมือตามแบบฉบับของมือถือซุงซุงที่มีหน้าจอขนาด  5.5 นิ้ว มีมุมขอบโค้งมนรับกันทั้ง 4 ด้านทำให้ดูกระทัดรัด

Advertisements

ฝั่งซ้ายจะเป็นปุ่มเพิ่มลดเสียงเลื่อลงมาจะเป็นช่องใส่ซิมการ์ดและช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ด

และฝั่งขวาจะเป็นเปิด-ปิดเครื่องและลำโพง

ถัดมาในส่วนของจอด้านบนก็จะมีกล้อง ลำโพงสนทนา เซ็นเซอร์ และไฟแฟลช

ส่วนด้านล่างจอก็จะมีปุ่มนูนออกมาเพียง 1 ปุ่มนั่นก็คือโฮมและซ้ายขวาก็จะเป็นเมนู Recent กับ Back

ถัดมาในส่วนของด้านหลังตัวเครื่องกันบ้าง ในส่วนของด้านหลังของตัวเครื่องก็จะมีโลโก้ซัมซุงอยู่ตรงกลาง และก็จะมีตัวกล้องพร้อมไฟแฟลชอยู่ด้วยกันเหนือโลโก้ ส่วนเส้นเส้นขอบบนและขอบล่างถูกออกแบบใหม่ให้มีความเก๋ไก๋เป็นแถบคาดสองแถบบนล่างแต่ไม่ได้มีเพียงแค่สวยอย่างเดียวยังเป็นเสา Atenna เอาไว้รับสัญญาณอีกด้วยค่ะ

ถัดมาในส่วนของด้านล่างของตัวเครื่องก็จะถูกออกแบบมาเป็นช่องสำหรับการเชื่อมต่อต่างๆ อาทิ พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิล พอร์ตสำหรับชาร์จแบตเตอรี่หรือโอนถ่าายข้อมูล และไมค์อีก 1 ตัว

รายละเอียดสเปคและวัสดุ

ตัวเครื่องถูกออกแบบมาเป็น Unibody ชิ้นเดียวไม่สามารถถอดชิ้นส่วนได้ ในส่วนของหน้าจอตัวนี้มาพร้อมความละเอียดแบบ Full HD ครอบด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5Dเป็นจอแบบ Super AMOLED ที่ให้การแสดงผลสีที่มีความสดใส มีความคมชัด และสามารถสู้แสงอาทิตย์ตอนกลางวันได้ดีมากๆ ถัดมาในส่วนของการเชื่อมต่อต่างๆ ตัวนีก็รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Bluetooth 4.2, WiFi ที่รองรับช่วงคลื่นได้ทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz และ GPS ที่ทดสอบโดยเปิดผ่าน Google Map พบว่าสามารถจับสัญญาณได้รวดเร็วดี และในส่วนของการใช้งาน 3G/4G ก็สามารถใช้งานได้ทุกเครือข่ายพร้อมระบบ Dual Standby ที่สามารถใช้งาน 3G/4G พร้อมกันทั้งสองซิม (ปล. 4G จะสามารถเปิดใช้งานได้แค่ซิมเดียวส่วนอีกซิมจะใช้งานเป็น 3G)

ถัดมาเรามาดูกันต่อในส่วนของสเปคภายในกันบ้าง รุ่นนี้ใช้ชิพเซ็ตการประมวลผลเป็น Exynos 7 Octa-core (7870) ที่มีแกนการทำงาน 8 แกนที่ความเร็วสูงสุด 1.6 GHz ด้วยกัน โดยทำงานร่วมกับแรมที่ให้มาในขนาด 3 GB  พร้อมทั้งหน่วยความจำภายในเครื่อง 32 GB  และรองรับไมโครเอสดีการ์ดสูงสุดถึง 256 GB กันเลยทีเดียว แบตเตอรรี่ตัวนี้ให้มาที่ขนาด 3600 มิลลิแอมป์ ถือว่าเยอะพอสมควรสำหรับการใช้งานเป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกัน  และที่สำคัญรุ่นนี้มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 7.0 (Nougat) ที่ครอบทับด้วย UI ของ Samsung Experience 8.1 นั่นเองค่ะ

จากการใช้งานโดยรวมๆ แล้วถือว่าดีในระดับปานกลางมีความคุ้มค่าคุ้มราคา เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ที่ต้องการเน้นถ่ายรูป และเล่นโซเชียลมีเดีย ในส่วนของการเล่นเกมดูหนังฟังเพลงก็ไม่ได้แย่อะไร แต่เป็นพวกเกมที่ต้องใช้สเปคสูงๆนั้นก็ไม่แนะนำเท่าไหร่ค่ะ เพราะเวลาเล่นอาจจะมีอาการกระตุกๆ พอรำคาญ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกเกม MOBA ต่างๆ ที่ต้องใช้อินเตอร์เนทจะกระตุกหรือไม่อินเตอร์เนทก็มีส่วนด้วยเช่นกันค่ะไม่ใช่ที่สเปคตัวเครื่องอย่างเดียว

ฟีเจอร์และการใช้งาน

ในส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็จัดมาให้แบบครบครัน ทั้ง Dual Messenger ฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถใช้งานแอพฯโซเชี่ยวได้ 2 แอคเคาท์พร้อมกัน , ฟีเจอร์ Multi-Window ใช้งานได้หลายหน้าจอพร้อมกัน  , ระบบแสกนลายนิ้วมือ, ระบบ NFC, แผนที่นำทางจาก Google Maps รวมถึงแอพฯ Google Service ต่างๆ, แอพฯ งานเอกสารจาก Microsoft และวิทยุ FM นอกจากนี้ก็มีฟีเจอร์เพิ่มเติมที่ซัมซุงนำเสนอให้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงการแจ้งเตือนแม้ล็อคเครื่องอยู่ (Always on Display), Samsung Pay, Galaxy Gift และ Galaxy Reward

กล้องและการถ่ายภาพ

ในส่วนของสเปคกล้องตัวนี้ก็มาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซลทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ในส่วนของการถ่ายภาพของรุ่นนี้นั้นก็ทำออกมาได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว ด้วยกล้องที่มาพร้อมค่ารูรับแรง f/1.7 ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยนั้นทำได้ดี รวมไปถึงการถ่ายหลังละลายหรือหน้าชัดหลังเบลอก็ทำได้ดีพอตัวเลยทีเดียว ส่วนกล้องหน้ามีค่า f/1.9 มุมมองค่อนข้างกว้าง สามารถรับมือการเซลฟี่หลายคนได้สบายๆ การปรับแต่งก็ธรรมดาตามสไตล์แอพฯ กล้องสายเซลฟี่ และที่ดีกว่าเดิมคือมีแฟลชกล้องหน้าติดมาให้พร้อมกับเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นแสงแฟลชได้ด้วย ในส่วนของลูกเล่นการปรับแต่งก็มีจะให้ใช้หลายโหมดอยู่ แต่น่าเสียดายที่โหมดโปรสามารถปรับได้แค่ไวท์บาลานซ์ , ISO และค่า Exposure เท่านั้น

ตัวอย่างภาพถ่าย

โหมดกลางคืน
โหมดปกติในสภาวะแสงน้อย
ถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอ

โดยรวมแล้วรุ่นนี้ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่เน้นเล่นเกมส์หนักๆ เน้นการเล่นโซเชียล เน้นการถ่ายรูป และจะเหมาะมากๆ กับผู้ใช้ที่มีแอคเคาท์โซเชียลหลาย แอคเคาท์อย่าง พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ ที่ไม่ต้องการพกสมาร์ทโฟนหลายๆ เครื่อง รุ่นนี้จะค่อนข้างตอบโจทย์มากๆเลยทีเดียวค่ะ ถือว่าครบ จบคุ้ม โดยราคาจะอยู่ที่ 10,900 บาท

สเปค

ขนาดตัวเครื่อง – 152.4 x 74.7 x 7.9 มิลลิเมตร , หนัก 168 กรัม
รองรับซิม – Dual SIM (Nano-SIM, dual stand-by)
หน้าจอ – ขนาด 5.5 นิ้ว แบบ Super AMOLED capacitive touchscreen, 16 ล้านสี (~73.3% screen-to-body ratio)
ความละเอียดหน้าจอ – 1080 x 1920 พิกเซล (~401 ppi pixel density) , Multitouch
ระบบปฏิบัติการณ์ – Android 7.0 (Nougat)
ชิปการประมวลผล – Exynos 7870 Octa
CPU – Octa-core 1.6 GHz Cortex-A53
GPU – Mali-T830 MP2
หน่วยความจำภายนอก – เพิ่มไมโครเอสดีการ์ดได้สูงสุด 256 GB
หน่วยความจำภายใน – 64 GB,แรม 3 GB
กล้องหน้า 13 MP f/1.7 /กล้องหลัง 13 MP f / 1.9 autofocus, LED flash โหมดถ่ายวีดีโอ – 1080p@30fps
ฟีเจอร์อื่นๆ Geo-tagging, touch focus, face detection, panorama, HDR ,MP3, WAV ringtones , Loudspeaker ,3.5mm jack
การเชื่อมต่อ – Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, Hotspot , Bluetooth 4.1, A2DP, LE GPS , A-GPS, GLONASS ,USB ,microUSB 2.0, USB On-The-Go
เซนเซอร์ – สแกนลายนิ้วมือ Fingerprint (front-mounted), accelerometer, gyro, proximity, compass
แบตเตอรี่ – 3600 มิลลิแอมป์

Leave a Reply