หลังจากที่โหวตในเพจ Samsung Party ไป รุ่น Galaxy S7 ได้รับโหวตมากกว่า Galaxy S7 edge ที่จะให้รีวิวก่อน แต่แล้วก็คิดว่ารีวิวไปพร้อมกันเลยละกันสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงตระกูล Galaxy S ของปีนี้ ทั้ง 2 รุ่นนี้ก็มีอะไรที่เปลี่ยนไปจาก Samsung Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge อยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ภายนอก และสเปคภายใน
เพื่อนๆ อาจจะได้เห็นบทความพรีวิวกันไปแล้ว ตอนวันเปิดตัวทั้ง 2 รุ่นนี้ ซึ่งสามารถหาอ่านบทความได้ที่นี่ สัมผัสตัวจริง ! Samsung Galaxy S7 และ S7 edge สมาร์ทโฟนทรงพลังสุดล้ำเหนือจินตนาการ แต่ถ้าใครที่ได้อ่านบทความนี้ไปแล้ว เราก็มาข้ามดูรีวิวกันเลยดีกว่า
เกี่ยวกับรีวิวนี้
Samsung Galaxy S7 ที่ได้มาทดสอบนี้ เป็นโมเดล SM-G930F ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow เวอร์ชั่น MMB29K.G930FXXU1APB6 และ Samsung Galaxy S7 edge เป็นโมเดล SM-G935F ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow เวอร์ชั่น MMB29K.G935FXXU1APB6
ดีไซน์ภายนอก Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge
ขอพุดถึงดีไซน์อีกครั้งก็แล้วกัน อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่าทั้ง 2 รุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปทั้งภายนอกและภายใน ขอพูดถึงภายนอกกันก่อนก็แล้วกัน ภายนอกมียังคงใช้โลหะและกระจกเป็นวัสดุหลักเหมือนกับ Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge แต่มีการปรับดีไซน์ให้โค้งมนขึ้น และปรับโทนสีให้เป็นโทนเดียวกับทั้งหมด ที่เห็นได้ชัดสุดก็คือปุ่มโฮมที่เป็นสีเดียวกันทั้งหมด
หน้าจอทั้ง 2 รุ่นเป็น Super AMOLED มีความละเอียด Quad HD 2560 x 1440 พิกเซล โดย Galaxy S7 จะมีขนาด 5.1 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 577ppi Galaxy S7 edge จะมีขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมขอบจอโค้ง Edge Screen ทั้ง 2 ข้าง และมีความหนาแน่นพิกเซล 534ppi น้อยกว่า Galaxy S7 เล้กน้อย
ทั้งนี้มีการเพิ่มฟีเจอร์ Always On Display ฟีเจอร์ใหม่ที่จะแสดงผลข้อมูลในขณะหน้าจอล็อค ไม่ว่าจะเป็นวันที่ เวลา, ปฏิทิน, สายไม่ได้รับ, อีเมล์, ข้อความต่างๆ เพื่อที่จะลดการเปิด/ปิดหน้าจอบ่อยๆ เป็นการช่วยประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น
ด้านหลังของ Galaxy S7 มีการนำดีไซน์ของ Galaxy Note 5 มาใช้งาน โดยจะเป็นขอบโค้งทั้ง 2 ข้างรับเข้ากับอุ้งมือ ทำให้การจับและใช้งานมือเดียวได้ถนัดมือและกระชับมากขึ้น ส่วนด้านหลังของ Galaxy S7 edge นั้นก็มีเว้าโค้งเล็กน้อย แต่ไม่เท่ากับของ Galaxy S7 เพื่อให้เข้ากับอุ้งมือในการจับใช้งานเช่นเดียวกัน
สำหรับตำแหน่งของปุ่มต่างๆ นั้นเป็นตำแหน่งเดียวกัน โดยมีปุ่มปรับระดับเสียงสนทนาอยู่ทางด้านซ้ายมือ ปุ่มล็อค/ปลดล็อคตัวเครื่องอยู่ทางด้านขวา ช่องใส่ซิมการ์ดจะอยู่ด้านบนของตัวเครื่อง ส่วนช่องต่อชุดหูฟัง, พอร์ตไมโครยูเอสบี ไมโครโฟนสนทนา และลำโพงจะอยู่ด้านล่างของตัวเครื่อง
โดยรวมแล้ว หากมองด้านหน้าอาจจะดูไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากมากนัก แต่ทางซัมซุงมีการเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โดยมีการคุมโทนสีของตัวเครื่องให้เป็นสีเดียวกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ่มโฮม ขอบของตัวเครื่อง ซึ่งดูแล้วสวยงามขึ้นกว่ารุ่นที่แล้วเข้าไปอีก อีกทั้งตัวกล้องยังนูนออกจากตัวเครื่องน้อยมาก บางทีอาจจะเป็นเพราะตัวเครื่องหนาขึ้นก็เป็นได้ แต่การที่ตัวเครื่องหนาขึ้นและน้ำหนักมากขึ้นก็ไม่ส่งผลต่อการหยิบจับถือใช้งานเท่าไรนัก
Galaxy S7 edge กับ Edge Screen ที่ใหญ่กว่าเดิม
ขอบจอโค้ง Edge screen มีมาตั้งแต่รุ่น Galaxy Note Edge ที่มีขอบจอโค้งเดียวและสามารถใช้งานได้หลายแทบ หลังจากนั้นไม่นาน Galaxy S6 edge ก็ได้นำขอบจอโค้งทั้ง 2 ข้างมาใช้งาน แต่ทว่ามีเพียง Apps edge และ People edge เท่านั้นที่ใช้งานได้
มาถึงรุ่น Galaxy S7 edge ยังคงมีขอบจอโค้ง Edge screen ทั้ง 2 ข้าง แต่มีการเพิ่มพื้นที่การใช้งานของ Edge screen ในรุ่นนี้เข้ามาเข้ามา และยังมีการเพิ่มแถบต่างๆ เข้ามาอีกมากมาย ซึ่งทำให้ขอบจอโค้งนี้มีประโยชน์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ยังคงต้องเลือกใช้งานด้านใดด้านนึงอยู่
ประสิทธิภาพและซอฟท์แวร์
เปลี่ยนมาใช้ชิปประมวลผลใหม่ Exynos 8890 สถาปัตยกรรมแบบ 64-bit แบบ Octa core เพิ่ม RAM เป็น 4GB โดยทั้ง 2 รุ่นนี้มีหน่วยความมีให้เลือกระหว่าง 32 และ 64 GB ซึ่งในประเทศไทยนำรุ่นความจุ 32GB เข้ามาจำหน่ายก่อน ส่วนรุ่น 64GB ยังไม่มีข่าว ทั้งนี้ได้นำการใช้งานเมมโมรี่การ์ดกลับมาอีกครั้ง โดยใช้ช่องเดียวกันกับซิม 2 ซึ่งเป็นแบบไฮบริดจ์ จะต้องเลือกว่าจะใช้งานซิม 2 หรือหน่วยความจำ และสามารถเปลี่ยนซิมการ์ดได้เลย ไม่ต้องทำการรีบูทเครื่องให้วุ่นวายเสียเวลา
สำหรับระบบปฏิบัติการที่มากับตัวเครื่องนั้นก็เป็น Android 6.0.1 Marshmallow และมี Samsung KNOX เป็นระบบความปลอดภัยที่ติดมาในเครื่อง ทางซัมซุงนั้นได้ปิดฟีเจอร์การติดตั้งแอพพลิเคชั่นหรือเกมลงในเมมโมรี่การ์ดที่กปกติจะมีใน Mashmallow ไป ด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวผู้ใช้งานจะเผลอเอาเมมโมรี่การ์ดออก และตัวเครื่องอาจจะมีปัญหาในการใช้งานได้
Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge ได้มีฟีเจอร์ Game Launcher และ Game Tools สำหรับเกมเมอร์มาให้ด้วย Game Launcher นั้นจะทำหน้าที่รวบรวมช็อตคัตของเกมภายในเครื่องมาไว้ที่เดียวกัน และสามารถปรับระดับกราฟิคในการแสดงผลต่างๆของเกม เพื่อประหยัดพลังงานในขณะเล่นเกมได้ และยังมีระบบทำความเย็นด้วยของเหลวที่ช่วยไม่ให้ตัวเครื่องร้อนมากอยู่ด้านใน
ส่วน Game Tools นั้นจะแสดงขึ้นมาในขณะเล่นเกมเป็นจุดเล็กๆ สามารถลากไปมาในหน้าจอได้ และเมื่อแตะเราก็สามารถตั้งค่า ไม่ให้มีการแจ้งเตือนต่างๆ ในเกม ป้องกันความรำคาญในขณะเล่น, ล็อคปุ่มล่าสุดและปุ่มย้อนกลับ ซึ่งเป็น 2 ปุ่มที่มักจะเผลอไปโดนในขณะเล่นเกม, ย่อหน้าต่างเกมลงมาเพื่อไปทำอย่างอื่นในสมาร์ทโฟน และเมื่อแตะไอค่อนก็จะกลับมายังเกมทันที, สามารถจับภาพหน้าจอโดยที่ไม่ต้องกดปุ่มล็อคและโฮมค้างไว้แล้ว เพียงแต่เลือกคำสังนี้, บันทึกวิดีโอในขณะเล่นสูงสุดระดับ HD 720p และสุดท้ายเป็นการตั้งค่าต่างๆ ของ Game Tools
Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge สามารถใช้ธีมได้เช่นกัน แต่ธีมของทั้ง 2 รุ่นนี้ยังมีให้เลือกไม่มากนัก เพราะต้องรองรับการใช้งานกับ Always On Display ด้วย
สำหรับใครที่อยากรู้คะแนนผลการทดสอบของทั้ง 2 รุ่น เราก็มีคะแนนจาก AnTuTu, GeekBench และ Basemark OS II มาให้ดูกันครับ
กล้องที่ดีกว่าเดิม
เรียกว่าเป็นกล้องสมาร์ทโฟนที่มีรูรับแสงกว้างที่สุดในขณะนี้ หลังจากรุ่นที่แล้วมีรูรับแสงกว้าง f/1.9 และมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มาปีนี้ทางซัมซุงได้ใช้กล้องตัวใหม่ลดความละเอียดลงเหลือ 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นจากเดิม 1.12 ไมครอนเป็น 1.4 ไมครอน ใช้เทคโนโลยีโฟกัส Dual Pixel แบบเดียวกับกล้องดิจิตอล Canon EOS 70D พร้อมเพิ่มรูรับแสงเป็น f/1.7 มาช่วยในการถ่ายรูป
พิกเซลขนาดใหญ่ รูรับแสง f/1.7 นั่นหมายความว่า คุณจะได้รูปภาพมีความคมชัดมากขึ้น และสามารถถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
จากการใช้งานถ่ายรูปภาพทั้ง 2 รุ่น การโฟกัสแบบ Dual Pixel ทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ บวกกับรูรับแสงที่กว้าง ทำให้รูปภาพที่ออกมานั้นมีระยะใกล้ ไกล ชัดเจนมากขึ้น หรือที่มักจะเรียกกันว่าหลังละลายนั่นเอง การถ่ายภาพระยะใกล้ก็ทำได้ดี การถ่ายภาพย้อนแสงก็ทำได้ดีเช่นกัน ทั้งนี้อาศัยฟีเจอร์ Auto HDR เข้าช่วย ทำให้การถ่ายภาพย้อนแสงแล้วหน้าไม่มืด ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยกความดีความชอบให้กับรูรับแสงด้วย
สำหรับการบันทึกวิดีโอก็รองรับการบันทึกที่ความละเอียด UHD หรือ 4K แต่ถ้าบันทึกวิดีโอที่ความละเอียด UHD, QHD และ FHD(60fps) จะไม่สามารถใช้งาน HDR, เอฟเฟ็กวิดีโอ และ Track AF ได้ สำหรับใครที่อยากจะถ่ายวิดีโอด้วยลูกเล่นใหม่ก็เลือกโหมด เคลื่อนไหวช้า(สโลว์โมชั่น) และ Hyperlapse ได้
โหมดที่มีมาให้ใช้งานนอกเหนือจาก เคลื่อนไหวช้า(สโลว์โมชั่น) และ Hyperlapse ก็คือ โปร, โฟกัสที่เลือก, พานอราม่า, วิดีโอคอลลาจ, live broadcast, ช็อตเสมือนจริง, อาหาร หากต้องการโหลดเพิ่มเติมสามารถเลือกดาวน์โหลดเพิ่มได้
กล้องหน้ายังคงเป็นเลนส์มุมกว้างความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเท่าเดิม แต่เพิ่มรูรับแสงเป็น f/1.7 เท่ากับกล้องหลังเลยทีเดียว เหมาะสำหรับคอเซลฟี่มากๆ ที่จะได้ภาพเซลฟี่ที่สวยและใสขึ้น และปัญหาการเซลฟี่ในที่แสงน้อยก็จะหมดไป ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังมีโหมดใช้แสงของหน้าจอแทนแฟลชสำหรับการเซลฟี่ด้วย แน่นอนว่าบิวตี้โหมดก็ยังคงอยู่ในการปรับแต่งต่างๆ ให้หน้าสวยเนียนใสมากขึ้น
รูปภาพตัวอย่าง
คลิปวิดีโอตัวอย่าง
https://www.youtube.com/watch?v=5rX8M2tlVK8
https://youtu.be/leWlDJv_p7U
https://youtu.be/0np-0vZpn4M
กันน้ำ กันฝุ่น มาตรฐาน IP68
หลังจากที่นำการใช้งาน MicroSD Card กลับมาแล้ว ก้ได้นำการกันน้ำ กันฝุ่น จาก Galaxy S5 มาใช้งานใน 2 รุ่นนี้ด้วย โดยเป็นมาตรฐาน IP68 ที่สามารถลงน้ำได้ลึก 1.5 เมตร และนาน 30นาที ที่น่าสนใจก็คือทั้ง 2 รุ่นนี้ไม่มีฝาปิดช่องและพอร์ตต่างๆ เพราะมีการใช้กาวอัพไว้ด้านใน แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรลองเสียบตามช่องหรือพอร์ตในน้ำนะครับ
แบตเตอรี่ที่อึดขึ้น
Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge มีแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นเป็น 3,000mAh และ 3,600mAh ทำให้การใช้งานทั่วไปได้นานขึ้น จากที่ทดลองใช้งานก็อยู่ได้จากเช้าถึงเย็น ซึ่งอาจจะได้ผลพวงมาจาก Android 6.0 Marshmollow ด้วย ส่วนการชาร์จก็รองรับการชาร์จเร็วแบบไร้สายเพิ่มเข้ามา ซึ่งจะต้องใช้อุปกรณ์ที่เป็นการชาร์จเร็วแบบไร้สายด้วยเช่นกัน ถึงจะสามารถชาร์จเร็วได้
ความคิดเห็นจาก Samsung Party
บอกได้เลยว่า Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 เป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ดีที่สุดในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ที่สวยงาม เรียบหรู ประสิทธิภาพที่สุดยอด กล้องที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ สำหรับรุ่นนี้กล้องคือที่ถูกใจที่สุด โฟกัสได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ถ่ายรูปออกมาแล้วไม่ผิดหวังแม้แต่น้อย โดยเฉพาะในที่แสงน้อย ทำได้ดีมากๆ ประหยัดแบตเตอรี่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงกันน้ำ, กันฝุ่นที่ใส่กลับมาในรุ่นนี้ ยิ่งทำให้สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนี้น่าใช้งานมากขึ้น ลองนึกภาพดูว่าจะเอาไปถ่ายในสระว่ายน้ำก็ทำได้ ไม่ต้องกลัวเปียกน้ำ มันจะสุขแค่ไหนกันนะ
แล้วจะซื้อรุ่นไหนดี? อาจจะเกิดคำถามนี้ขึ้นมา เอาง่ายๆ เลย ถ้าชอบหน้าจอใหญ่ อยากได้อะไรที่แหวกแนวอย่างขอบจอโค้งก็เพิ่มเงินอีกนิดเป็น Galaxy S7 edge ไปเลย แต่ถ้าชอบหน้าจอกำลังดี ขนาดสะดวกในการพกพา ก็ Galaxy S7 เพราะนอกจากแบตเตอรี่และหน้าจอแล้ว ทั้ง 2 รุ่นนี้ก็เหมือนกันทั้งหมด
ถ้าใครตัดสินใจได้แล้ว ก็สามารถเข้าไปจองทั้ง 2 รุ่นนี้ได้ที่ www.S-eStore.com ได้รับส่วนลดทันที 2,000 บาท ส่งฟรีถึงบ้าน อย่ารอช้า จองได้ถึง 15 มีนาคมนี้เท่านั้นนะครับ
เปรียบเทียบสเปค Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge
| Samsung Galaxy S7 | Samsung Galaxy S7 edge | |
| ราคา | 23,900 บาท | 26,900 บาท |
| หน้าจอ | 5.1 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Quad HD 2560 x 1440 พิกเซล 577ppi |
5.5 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Quad HD 2560 x 1440 พิกเซล 534ppi ขอบจอโค้ง Edge screen 2 ด้าน |
| ขนาดตัวเครื่อง | 142.4 x 69.6 x 7.9 มิลลิเมตร | 152.4 x 78.6 x 7.5 มิลลิเมตร |
| น้ำหนัก | 152 กรัม | 157 กรัม |
| ระบบปฏิบัติการ | Android 6.0.1 Marshmallow | Android 6.0.1 Marshmallow |
| หน่วยประมวลผล | Exynos 8890 Octa core | Exynos 8890 Octa core |
| RAM | 4GB | 4GB |
| หน่วยความจำภายใน | 32GB | 32GB |
| รองรับ microSD Card สูงสุด | 200GB | 200GB |
| แบตเตอรี่ | 3,000 mAh | 3,600 mAh |
| กล้องหลัง | 12 ล้านพิกเซล แบบ Dual Pixel รูรับแสง f/1.7 , เลนส์ 26 มม. ออโต้โฟกัส, OIS พร้อม LED Flash แบบ Dual-tone | 12 ล้านพิกเซล แบบ Dual Pixel รูรับแสง f/1.7 , เลนส์ 26 มม. ออโต้โฟกัส, OIS พร้อม LED Flash แบบ Dual-tone |
| กล้องหน้า | 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 เลนส์ 22 มม. dual video call, Auto HDR | 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 เลนส์ 22 มม. dual video call, Auto HDR |
| ซิมการ์ด | micro-SIM รองรับ 2 ซิม (แบบไฮบริดจ์) | micro-SIM รองรับ 2 ซิม (แบบไฮบริดจ์) |
| Wi-Fi | WLAN IEEE 802.11 b/g/n/ac dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot | WLAN IEEE 802.11 b/g/n/ac dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot |
| Bluetooth | มี v4.2 | มี v4.2 |
| NFC | มี | มี |
| เซ็นเซอร์ | Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, heart rate, SpO2 | Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, heart rate, SpO2 |
| กันน้ำ กันฝุ่น | มี มาตรฐาน IP68 | มี มาตรฐาน IP68 |
| รองรับเครือข่าย | 2G: 850/900/1800/1900MHz 3G: 850/900/1900/2100MHz LTE |
2G: 850/900/1800/1900MHz 3G: 850/900/1900/2100MHz LTE |
| สี | สีขาว, สีดำ, สีทอง, สีเงิน | สีขาว, สีดำ, สีทอง, สีเงิน |