เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S21 FE 5G และ Galaxy S21+ รุ่นไหนคุ้มกว่ากัน?

หลังจากที่ Samsung Galaxy S21 FE 5G ได้วางจำหน่าย ก็มีคำถามมากมายว่ารุ่นนี้เป็นอย่างไร เปรียบเทียบกับ Galaxy S21 รุ่นก่อนแล้วเป็นอย่างไรบ้าง รุ่นไหนคุ้มกว่ากัน วันนี้เราเลยหยิบเอา Galaxy S21+ ที่มีขนาด และสเป็คใกล้เคียงมาเปรียบเทียบให้ดู แต่ Galaxy S21+ จะมีราคาที่แพงกว่าพอสมควร มาดูกันครับว่ารุ่นไหนดีกว่า และคุ้มค่ากว่ากัน

Galaxy S21 FE

เปรียบเทียบขนาด น้ำหนัก และวัสดุ

ก่อนอื่นเลยมาดูกันที่ขนาดของตัวเครื่องทั้งสองกันก่อนเลย หากนำตัวเครื่องทั้งสองรุ่นมาวางเทียบกันจะเห็นว่า Galaxy S21+ จะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย แต่หากเทียบกันดีๆ ก็แทบจะมีขนาดไม่ต่างกันมากนัก สเป็คขนาดของตัวเครื่องโดยละเอียดมีดังนี้

Advertisements
  • Samsung Galaxy S20 FE 5G : 155.7 x 74.5 x 7.9 มม. หนัก 177 กรัม
  • Samsung Galaxy S21+ 5G : 161.5 x 75.6 x 7.8 มม. หนัก 202 กรัม

Galaxy S21 FE

Galaxy S21 FE

Galaxy S21 FE

ในด้านของน้ำหนัก จากตัวเลขจะเห็นได้ว่า Galaxy S21+ มีน้ำหนักมากกว่าพอสมควร เป็นผลมาจากวัสดุที่นำมาใช้ โดย Galaxy S21+ ด้านหลังใช้วัสดุเป็นกระจก Gorilla Glass Victus ที่มีน้ำหนักมากกว่า Galaxy S21 FE ที่ใช้วัสดุเป็นโพลีคาร์บอเนต โดยวัสดุชนิดนี้จะมีน้ำหนักเบากว่า และยังเป็นวัสดุแบบด้าน การสัมผัสจึงไม่ลื่นมือ อีกทั้งยังไม่ทิ้งรอยนิ้วมือให้เป็นคราบอีกด้วย จึงไม่ต้องเช็ดทำความสะอาดบ่อยๆ และสำหรับกระจกด้านหน้า ทั้งสองรุ่นใช้กระจก Gorilla Victus มีความแข็งแรง ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนด้วยเช่นเดียวกัน

Galaxy S21 FE

สำหรับสีของตัวเครื่อง Galaxy S21 FE ที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะเป็นสีเดียวกันทั้งหมด มีให้เลือก 4 สี ส่วน Galaxy S21+ ด้านหลังจะเป็นแบบทูโทน โดยที่บริเวณโมดูลของกล้องจะเป็นคนละสีกับตัวเครื่อง มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี

Galaxy S21 FE
Samsung Galaxy S21 FE 5G สี Graphite, White, Olive และ Lavender
Samsung Galaxy S21+ 5G สี Panthom Black, Phantom Violet และ Phantom Silver

จอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X เหมือนกัน ต่างกันที่ขนาด

จอแสดงผลของทั้ง 2 รุ่นมีขนาดค่อนข้างจะใกล้เคียงกัน โดยหน้าจอของ Galaxy S21 FE จะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 6.4 นิ้ว ส่วน Galaxy S21+ มีขนาด 6.7 นิ้ว แต่หากมองดูด้วยตาเปล่าจะมีขนาดต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนสเป็คหน้าจอของทั้งสองรุ่นนั้นใช้จอภาพแบบ Dynamic AMOLED 2x เป็นจอชนิดเดียวกัน Galaxy S21 FE ทั้งสองรุ่นมีความละเอียดเท่ากันที่ FHD+ หรือ 1080 x 2400 พิกเซล และเมื่อดูสีสันบนหน้าจอทั้งสองก็ให้ความสว่าง และสีสันของหน้าจอแทบไม่ต่างกันเลย

Galaxy S21 FE

ในด้านการแสดงผล ทั้งสองรุ่นก็มี Refresh rate ที่ 120 Hz เท่ากัน แต่ Galaxy S21+ จะสามารถปรับอัตราการแสดงผลได้อัตโนมัติตาม Content ที่แสดงบนหน้าจอตั้งแต่ 48-120 Hz ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานจากแบตเตอรี่ แต่ Galaxy S21 FE เลือกปรับได้ที่ 60 หรือ 120 Hz เท่านั้น โดยรวมแล้วสเป็คหน้าจอของทั้งสองรุ่นถือว่าถอดสเป็คมาจากรุ่นพี่แบบเต็มๆ จะต่างกันเพียงขนาดหน้าจอที่ต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น

จุดที่น่าสังเกตคือกล้องหน้าของ Galaxy S21 FE จะมีรูที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย นั่นก็เพราะว่าเซ็นเซอร์กล้องหน้าของรุ่นนี้มีความละเอียดสูงกว่า Galaxy S21+ นั่นเอง โดยที่ S21 FE มีความละเอียดถึง 32 ล้านพิกเซล ในขณะที่ Galaxy S21+ มีความละเอียด 10 ล้านพิกเซล

Galaxy S21 FE

ชิพประมวลผลรุ่นเดียวกัน หน่วยความจำเท่ากัน แต่ราคาต่างกันเป็นหมื่น!!

ตรงนี้เป็นจุดที่น่าสนใจมาก กับหน่วยประมวลผลของทั้งสองรุ่นที่ใช้ชิพรุ่นเดียวกัน หน่วยความจำเท่ากัน แต่ราคาต่างกันเป็นหมื่น โดยราคากลางของ Galaxy S21+ อยู่ที่ 33,900 บาท ส่วน Galaxy S21 FE อยู่ที่ 22,900 บาท ต่างกันถึง 11,000 บาท!! แต่ราคาตลาด ณ ปัจจุบันของ Galaxy S21+ ก็ลดลงมาพอสมควร แต่ก็ยังต่างกันหลายพันบาททีเดียว ฟันธงตรงนี้ได้เลยว่า Galaxy S21 FE คุ้มที่สุด อย่างไรก็ดี เรามาดูรายละเอียดของหน่วยประวลผลกันก่อนที่จะทำการทดสอบประสิทธิภาพกัน

สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นใช้หน่วยประมวลผล Exynos 2100 ซึ่งเป็นชิพประมวลผลที่ออกมาประมาณ 1 ปีแล้ว แต่สเป็คเรือธงระดับนี้ก็ยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่ทั้งการใช้งาน หรือการเล่นเกม 3D แบบหนักๆ หน่วยประมวลผลของรุ่นนี้มี 8 แกนประมวลผล โดยรุ่นที่เรานำมาเปรียบเทียบมีหน่วยความจำเรา RAM มาให้ 8 GB และ ROM มาให้ 128 GB เท่ากัน ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ทั้งคู่ นอกจากนี้ชิพเซ็ตของทั้งสองรุ่นก็รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ในไทยทุกค่ายด้วยเช่นกัน

สำหรับระบบปฏิบัติการของทั้งสองรุ่นใช้ One UI Version 4.0 บนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android Version 12 ใหม่ล่าสุด ซึ่งหากใครที่พึ่งซื้อ Galaxy S21+ แกะกล่องออกมาอาจจะต้องอัพเดทเวอร์ชั่นกันสักหน่อย แต่สำหรับ Galaxy S21 FE แกะกล่องออกมาก็เป็น Android เวอร์ชั่น 12 ใหม่ล่าสุดทันที

Galaxy S21 FE

จากผลการทดสอบความเร็วด้วยแอพฯ และ Antutu Benchmark เวอร์ชั่น 9.2.6 พบว่าคะแนนของทั้งสองรุ่นต่างกันน้อยมากๆ โดย Galaxy S21 FE ทำคะแนนได้ต่ำกว่าเล็กน้อยที่ 712,274 คะแนน ส่วน Galaxy S21+ ทำคะแนนได้ 723,479 คะแนน

Galaxy S21 FE

คลิปวิดีโอทดสอบ Samsung Galaxy S21 FE 5G VS Galaxy S21+ 5G ด้วยแอพฯ Antutu 9.2.6

ส่วนผลการทดสอบด้วยแอพฯ Geekbench 5 พบว่า Galaxy S21 FE ทำคะแนน Single-Core ได้ 932 คะแนน และ Multi-Core ทำได้ 3060 คะแนน ส่วน Galaxy S21+ ทำคะแนน Single-Core ได้ 958 คะแนน และ Multi-Core ทำได้ 2945 คะแนน โดยสรุปแล้วผลการทดสอบของทั้งสองรุ่นทำคะแนนได้สูสีใกล้เคียงกันมาก ซึ่งหากใช้งานจริงแล้วแทบจะไม่เห็นความแตกต่างเลยก็ว่าได้

Galaxy S21 FE

กล้องหน้า และกล้องหลัง

ในด้านการถ่ายภาพของทั้งสองรุ่นก็มีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดยที่กล้องหลังเลนส์หลักอย่างเลนส์ Wide ของทั้งสองรุ่นมีความละเอียดเท่ากันที่ 12 ล้านพิกเซล เลนส์ Ultra Wide ก็มีความละเอียดเท่ากันที่ 12 ล้านพิกเซลเหมือนกัน สำหรับเลนส์ Tele ของ Galaxy S21+ จะได้เปรียบตรงที่มีความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล พร้อมซูมแบบ Optical ได้ 3 เท่า และสามารถซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุด 30 เท่า ซึ่งจะได้เปรียบตรงที่การซูมดิจิตอลจะทำให้ภาพได้ความละเอียดมากกว่า ในขณะที่เลนส์ Ultra wide ของ Galaxy S21 FE มีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล แต่ก็สามารถซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุด 30 เท่าเช่นกัน แต่หากซูมมากๆ ภาพก็จะสูญเสียความละเอียดไป ตรงจุดนี้อาจจะต้องยอม Galaxy S21+ ที่มีความละเอียดสูงกว่า

Galaxy S21 FE

แต่ Galaxy S21 FE ยังมีจุดเด่นตรงที่กล้องหน้าที่มีความละเอียดมากกว่าถึง 32 ล้านพิกเซล แต่สำหรับ Galaxy S21+ มีกล้องหน้าความละเอียดเพียง 10 ล้านพิกเซลเท่านั้น ข้อนี้ต้องยกให้ Galaxy S21 FE ชนะไปโดยไม่ต้องสงสัย

และสำหรับการถ่ายวิดีโอ Galaxy S21+ สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 8K ส่วน Galaxy S21 FE ถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K ซึ่งในตอนนี้การถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K ก็ถือว่าคมชัดมากแล้ว

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง

แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ

ในด้านของแบตเตอรี่ ในรุ่น Galaxy S21 FE จะมีแบตเตอรี่ขนาดเล็กกว่าอยู่ที่ 4500 mAh ในขณะที่ Galxy S21 FE มีแบตเตอรี่ความจุ 4800 mAh ต่างกันเพียงเล็กน้อยตามขนาดของตัวเครื่อง ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่ก็สามารถชาร์จเร็วได้ถึง 25 วัตต์ทั้งสองรุ่น อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จไร้สายที่กำลังไฟ 15 วัตต์

สรุป ฟันธง!!! Galaxy S21 FE 5G คุ้มที่สุด

จากสเป็ค และการทดสอบประสิทธิภาพต่างๆ ถือว่าทั้งสองรุ่นแทบจะไม่ต่างเท่าใดนัก ที่เห็นชัดเจนคือ Galaxy S21 FE มีตัวเครื่อง หน้าจอ แบตเตอรี่เล็กกว่านิดหน่อย ส่วนกล้องก็ต่างกันตรงที่ความละเอียดของเลนส์ Telescope และกล้องหน้าของ Galaxy S21 FE ที่มีความละเอียดสูงกว่า และสำหรับการทดสอบประสิทธิภาพ ความเร็วต่างกันเล็กน้อยเท่านั้นเอง โดยรวมแล้วเราถือว่าไม่ต่างกัน แต่สิ่งที่เราอยากให้เห็นคือความคุ้มค่า เพราะราคาของทั้งสองรุ่นที่ต่างกันพอสมควร ซึ่งหากเทียบราคาเปิดตัวแล้วต่างกันเป็นหมื่นบาท แต่ราคาตลาดตอนนี้ Galaxy S21+ จะอยู่ที่ 28,900 บาท ส่วน Galaxy S21 FE นั้นเปิดตัวด้วยราคาเพียง 22,900 บาทเท่านั้นเอง ต่างกันถึง 6,000 บาทเลยทีเดียว สรุปฟันธงได้เลยว่า Galaxy S21 FE 5G คุ้มค่าที่สุดในเวลานี้!!!

– ฟรี Samsung Care+ นาน 1 ปี มูลค่า 2,939.-
– รับส่วนลดเพิ่ม 2,000.- เมื่อใช้สิทธิ์เก่าแลกใหม่

ตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค. 65 – 31 ม.ค. 65 เฉพาะที่ samsung.com
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

Leave a Reply