พรีวิว ตัวเครื่องและฟีเจอร์เด่น Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+

หลังจากที่เปิดตัวกันไปตอนเช้ามืด (3.00 น.) และวันนี้ทาง ซัมซุง ประเทศไทย ก็ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมเปิดให้จองเครื่องได้ทันที และในวันนี้ SamsungParty ก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพตัวเครื่องพร้อมพรีวิว Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+ เล็กๆ น้อยๆ มาฝากเพื่อนๆ กันครับ

ตัวเครื่องบาง ดีไซน์พรีเมี่ยม

พรีวิว Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+ บาง สวย พรีเมี่ยม

เห็นสเปคในตอนเปิดตัว ตัวเครื่องหนา 7.9 มิลลิเมตร หากเปรียบเทียบกับ Galaxy Note 9 ที่เครื่องหนา 8.8 มิลลิเมตร หนากว่า Galaxy S10 เพียงนิดหน่อยเท่านั้น (S10 หนา 7.8 มิลลิเมตร) มีการออกแบบตัวเครื่องที่บางลงมาก พร้อมทั้งยังมีขอบหน้าจอที่บางลงด้วย ซึ่งในรุ่นนี้ทางซัมซุงได้ตัดสินใจใช้หน้าจอแบบ Infinity-O ฝังกล้องหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ดูเหมือนเป็นการลดสเปคกล้องหน้าลง โดยทางซัมซุงให้เหตุผลว่าต้องการลดขนาดเลนส์ลงเพื่อความสวยงามของตัวเครื่อง และผมคิดว่าจะทำให้กล้องมันไม่กินพื้นที่บนหน้าจอมากเกินไปด้วย

Advertisements
Galaxy Note 10
Galaxy Note 10+
Galaxy Note 10+

อย่างที่ทราบกันในครั้งนี้ ซัมซุงได้เปิดตัว Galaxy Note Series ออกมาเป็น 2 รุ่นครั้งแรก โดย Galaxy Note 10 ที่มีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว จะเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ชอบปากกา S-Pen แต่ไม่ต้องการเครื่องที่มีขนาดใหญ่ โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่รู้สึกว่าตัวเครื่องของสมาร์ทโฟน Galaxy Note นั้นใหญ่เกินไป ใช้งานถือมือเดียวยาก ส่วน Galaxy Note 10+ จะมีหน้าจอขนาด 6.8 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ Dynamic AMOLED รองรับ HDR10+

Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+

การดีไซน์ก็ยังคงเป็นการขึ้นโครงอะลูมิเนียมและประกบด้วยกระจกหน้า-หลัง ซึ่งในรุ่นใหม่นี้จะใช้กระจก Coring Gorilla Glass 6 ทั้งหน้าและหลัง และยังมีสีใหม่อย่าง Aura Glow เข้ามาให้เลือก โดยสีนี้จะเป็นสีออกสีรุ้งเมื่อมีการกระทบของแสง จะแสดงผลแตกต่างกันไป ซึ่งหากเป็นคนรุ่นเก่าหน่อย ให้นึกถึงด้านหลังของแผ่น CD ก็จะร้องอ๋อกันอย่างแน่นอน

ส่วนสีของปากกา S-Pen เฉพาะสี Aura Glow ที่เป็นสีน้ำเงิน ส่วนสีอื่นๆ ปากกา S-Pen จะมีสีตรงกับตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังมีการตัดปุ่ม Bixby ออก แล้วย้ายปุ่ม Power มาแทนที่ โดยจะอยู่ฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง วางร่วมกับปุ่มปรับระดับเสียงสนทนา

ตัดช่องต่อชุดหูฟัง 3.5 มม. ออก โดยแถมหูฟัง AKG พอร์ต USB-C ในกล่องแทน ลำโพงเป็นแบบสเตอริโอ AKG ระบบเสียง Dolby Atmos ถาดใส่ซิมการ์ดจะวางอยู่ด้านบนตัวเครื่อง ซึ่ง Note 10+ ถาดซิมการ์ดจะเป็นแบบ Hybrid

ลูกเล่นกล้องที่มากกว่าเดิม

Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+

ทั้ง 2 รุ่นนี้ กล้องจะต่างกันแค่เลนส์ DepthVision ที่มีบน Note 10+ เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น จะทำให้การถ่าย Live focus จะทำหน้าชัดหลังเบลอในภาพนิ่งและวิดีโอได้ดีกว่า ส่วน Note 10 จะทำหน้าชัดหลังเบลอด้วยซอฟต์แวร์ ซึ่งในโหมดนี้ก็จะเลือกเอฟเฟ็กต์ฉากหลังเบลอได้อีกหลายรูปแบบ

ซูมเสียงได้ เป็นอีกฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับการซูมเข้า ด้วยตัวเครื่องจะเพิ่มไมค์ที่ด้านหลังของตัวเครื่องเข้ามา เพื่อทำการจับเสียงและไมค์ด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นการจับเสียงรอบข้างแล้วทำการตัดเสียงที่ไม่เกี่ยวข้องออก เวลาบันทึกวิดีโอแล้วทำการซูม ก็จะเป็นการซูมเสียงเข้าไปด้วย โดยสังเกตุจากไอค่อนรูปไมค์ที่จะมีระดับขีดสีเหลืองวิ่งรอบ ยิ่งซูมระดับสีก็จะยิ่งเต็มวงมากขึ้น

และยังมี AR Doodle เป็นฟีเจอร์ที่น่ารัก เชื่อได้ว่าสาวๆ ต้องชอบฟีเจอร์นี้แน่ๆ ด้วยความสามารถ AR ของ Galaxy Note 10 และ Note 10+ จะทำให้เราสามารถวาดสิ่งต่างๆ ลงบนกล้องในขณะที่กำลังส่องหน้าของเพื่อนอยู่ ซึ่งเมื่อมีการขยับ สิ่งที่เราวาดก็จะขยับตามไปด้วย ตรงนี้สามารถบันทึกวิดีโอออกมาส่งความสนุกให้กับเพื่อนได้อีกเยอะเลย

การใช้ S-Pen เป็นรีโมทกล้องก็เป็นอีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจ จากเดิมทำได้เพียงกดชัตเตอร์ แต่มาครั้งนี้อย่างกับไม้กายสิทธิ์ ที่สามารถใช้การ Air Gestures กดปุ่มแล้วโบกปากกาไปทางซ้าย ทางขวา เพื่อทำการเปลี่ยนโหมด กดแล้วหมุนเป็นวงกลมทางซ้าย ทางขวา ก็จะเป็นการซูมเข้า ซูมออก และสะบัดขึ้นก็จะเป็นการสลับกล้องหน้า-กล้องหลัง รวมถึงการใช้งานกับแอพอื่นๆ อาทิ Spoitfy, Youtube ในการบังคับเพลง, เพิ่มเสียง, ลดเสียงได้

ในส่วนของการจดโน๊ต ก็เพิ่มฟีเจอร์การแปลงภาษาเขียนให้เป็นภาษาพิมพ์ ซึ่งรองรับภาษาไทยอีกด้วย โดยจะเป็นการใช้ AI เข้ามาทำการเรียนรู้ลายมือการเขียนต่างๆ ทำให้เราสามารถแปลงเพื่อส่งต่อให้เพื่อนได้ โดยที่เราไม่ต้องมาเสียเวลาพิมพ์ใหม่

Samsung Dex ใช้งานได้ง่ายและสมบูรณ์ขึ้น

Samsung Dex

เพิ่มความสามารถในการเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับการทำงานมากขึ้นได้ด้วยการเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ ก็จะสามารถโอนถ่ายไฟล์ หรือแก้ไขเอกสารบนหน้าจอใหญ่ได้ และยังรองรับ Mac OS ด้วยนะ

Samsung Galaxy Note 10+

หลังจากที่ได้ทดลองใช้งานมาบางส่วน รู้สึกได้เลยว่า Galaxy Note 10 และ Note 10+ นี้ ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาขึ้นมาได้ตอบโจทย์ให้กับผู้ใช้งานมากขึ้นในหลายๆ ส่วน และเหมาะกับคนที่ชื่นชอบการทำงานได้ทุกที่ รวมถึงเหล่า Creator Content ต่างๆ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ก็พร้อมที่จะเป็นเครื่องมือให้ใช้งานได้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ทดลองใช้งานแบบจริงๆ จัง ก็ไม่กล้าบอกอะไรมาก เดี๋ยวไว้ได้เครื่องมาแล้วทดลองใช้งานแบบจริงจังก่อน แล้วจะมาเล่าให้ฟังกันอีกทีนะ

Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+

ราคาและวันวางจำหน่าย Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+

  • Galaxy Note 10 (8GB / 256GB) ราคา 32,900 บาท
  • Galaxy Note 10+ (12GB / 256GB) ราคา 37,900 บาท
  • Galaxy Note 10+ (12GB / 512GB) ราคา 40,900 บาท

เปิดให้จองแล้วตั้งแต่วันที่ 8 – 23 สิงหาคม 2562 นี้ ที่ Samsung Brand Shop และร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ รวมถึงโอเปอร์เรเตอร์ผู้ให้บริการเครือข่ายต่างๆ

สเปค Sasmung Galaxy Note 10

  • ขนาดตัวเครื่อง 151 x 71.8 x 7.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 168 กรัม
  • หน้าจอ Dynamic AMOLED ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ HDR10+ สแกนนิ้วใต้หน้าจอ Ultrasonic
  • กล้องหน้าความละเอียด 10MP รูรับแสง f/2.2 โหมด Night Shot
  • กล้องหลัง Triple lens
    • เลนส์มุมกว้าง Ultrawide 123 องศา ความละเอียด 16MP รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์หลัก มุมกว้าง ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.5 & 2.4
    • เลนส์เทเลโฟโต้ ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.1
  • ชิปประมวลผล Exynos 9825
  • หน่วยประมวลผล
    • RAM 8GB
    • ROM 256GB UFS 3.0 (ไม่รองรับ microSD Card)
  • ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย One UI
  • แบตเตอรี่ 3,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W ชาร์จไร้สาย 20W PowerShare 15W
  • ระบบเสียง Dolby Atmos ลำโพงสเตอริโอ AKG
  • ไมโครโฟน 3 ตัว (บน, ล่าง และด้านหลัง)
  • ซิมการ์ด Dual(LTE)/Single(5G)
  • การเชื่อมต่อ WiFi 6, Bluetooth 5.0, NFC
  • มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น IP68
  • มีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีรุ้ง Aura Glow, สีขาว Aura White, สีดำ Aura Black, สีชมพู Aura Pink และ สีแดง Aura Red

สเปค Samsung Galaxy Note 10+

  • ขนาดตัวเครื่อง 162.3 x 77.2 x 7.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 196 กรัม (5G 198 กรัม)
  • หน้าจอ Dynamic AMOLED ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ HDR10+ สแกนนิ้วใต้หน้าจอ Ultrasonic
  • กล้องหน้าความละเอียด 10MP รูรับแสง f/2.2 โหมด Night Shot
  • กล้องหลัง Quad lens
    • เลนส์มุมกว้าง Ultrawide 123 องศา ความละเอียด 16MP รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์หลัก มุมกว้าง ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.5 & 2.4
    • เลนส์เทเลโฟโต้ ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/2.1
    • เลนส์ชัดลึก DoF
  • ชิปประมวลผล Exynos 9825
  • หน่วยประมวลผล
    • RAM 12GB
    • ROM 256GB UFS 3.0 (รุ่น 5G 256GB/512GB/1TB)
    • รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB
  • ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย One UI
  • ระบบเสียง Dolby Atmos ลำโพงสเตอริโอ AKG
  • ไมโครโฟน 3 ตัว (บน, ล่าง และด้านหลัง)
  • แบตเตอรี่ 4,300mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W (อะแดปเตอร์ 45W แยกจำหน่าย) ชาร์จไร้สาย 20W PowerShare 15W
  • ถาดซิมการ์ดแบบ Hybrid slot
  • การเชื่อมต่อ WiFi 6, Bluetooth 5.0, NFC
  • มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น IP68
  • มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีรุ้ง Aura Glow, สีขาว Aura White, สีดำ Aura Black, สีฟ้า Aura Blue

ติดตามข่าวสารซัมซุงแบบทันใจได้ที่ เฟซบุ๊ค Samsung Party

Leave a Reply