รีวิว Samsung Galaxy S6 edge ขอบจอโค้ง 2 ข้าง ที่สุดแห่งการดีไซน์

Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมในงาน MWC 2015 ที่ผ่านมา ในประเทศไทยเริ่มเปิด pre-order กันแล้ว โดยสามารถจองผ่าน 3 โอเปอร์เรเตอร์ และเว็บไซต์ S-eStore.com และเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 20 เมษายนที่จะถึงนี้ โดยมีราคาเริ่มต้น 27,900 บาท สำหรับรุ่น 32GB และ 30,900 บาท สำหรับรุ่น 64GB

Samsung Galaxy S6 edge เป็นสมาร์ทโฟนที่มีขอบจอโค้งทั้ง 2 ข้างเครื่องแรกของโลก โดยก่อนหน้านี้ทางซัมซุงได้นำขอบจอโค้ง Edge screen มาใส่ใน Samsung Galaxy Note Edge ไปแล้ว และคราวนี้ก็ได้นำมาใช้งานในรุ่นนี้ด้วย และ Samsung Galaxy S6 edge จะเป็นอย่างไรนั้น เชิญอ่านรีวิวกันได้เลยครับ

Advertisements

ดีไซน์

Samsung-Galaxy-S6-edge-1

Samsung Galaxy S6 edge มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์และวัสดุใหม่หมดจด จากวัสดุหลักที่เป็นพลาสติกในรุ่นก่อนๆ จะไม่ได้สัมผัสในรุ่นนี้แล้ว โดยขึ้นรูปจากโลหะ 6013 Aluminum ชิ้นเดียว และใช้กระจก Gorilla Glass 4 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.1 นิ้ว Quad HD ความละเอียด 2560 x 1440 (577 ppi) พร้อมกับขอบจอโค้ง Edge screen ทั้ง 2 ข้าง พร้อมเคลือบสารให้ความเงาและแสดงผลได้สวยงามและชัดเจนขั้นด้วยกระบวนการ nano-thin multi-coating

Samsung-Galaxy-S6-edge-2

มีการปรับเปลี่ยนช่องต่อชุดหูฟังจากด้านบนและลำโพงสปีกเกอร์จากด้านหลัง มาอยู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง ทำให้เวลาวางเครื่องหงายขึ้น ลำโพงจะไม่ถูกบดบัง

Samsung-Galaxy-S6-edge-3

ปุ่ม Home มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สามารถปลดล็อคเครื่องด้วยการแตะที่ปุ่ม Home ไม่ต้องรูดนิ้วเหมือนรุ่นก่อนๆแล้ว

Samsung-Galaxy-S6-edge-4

ปุ่มล็อคและปลดล็อค มีการขยับลงเกือยกึ่งกลางเครื่อง ให้ทำใช้งานมือเดียวได้สะดวกขึ้น และหากใช้แนวนอน ก็จะห่างนิ้วชี้ ทำให้ไม่โดนปุ่มง่ายๆ

Samsung-Galaxy-S6-edge-10

ช่องใส่ซิมการ์ดแบบนาโนซิมจะอยู่ด้านบนของตัวเครื่อง และมีพอร์ตอินฟาเรดวางอยู่ด้วย

Samsung-Galaxy-S6-edge-5

สำหรับสีของตัวเครื่องนั้น จะเห็นสีที่แตกต่างเมื่อมีแสงตกกระทบ อย่างเช่นรุ่นที่ได้มารีวิว ตัวเครื่องสีดำ เมื่อมีแสงมาตกกระทบจะมองเห็นเป็นสีน้ำเงิน

Samsung-Galaxy-S6-edge-6

โดยรวมแล้วถือว่าซัมซุงทำการบ้านการดีไซน์ตัวเครื่อง Samsung Galaxy S6 edge มาได้ดี นอกจากจะเปลี่ยนวัสดุหลักแล้ว ความสวยงามยังเห็นได้อย่างชัดเจน ยิ่งเห็นตัวจริงแล้วต้องชอบ ยิ่งได้จับและสัมผัสจะรู้สึกถึงความพรีเมี่ยมได้เลย น้ำหนักเบากว่าที่คิดมาก (132 กรัม) ใช้งานมือเดียวก็สะดวกขึ้น

ประสิทธิภาพ

Samsung Galaxy S6 edge ได้เปลี่ยนมาใช้ชิปประมวลผล Exynos 7420 ที่ใช้เทคโนโลยีระดับ 14 นาโยเมตรในการผลิต ประกอบด้วย หน่วยประมวลผลแบบ Quad-core Cortex-A57 ที่ความเร็ว 2.1GHz และ Qaud-core Cortex-A53 ที่ความเร็ว 1.5GHz พร้อมชิปประมวลผลกราฟิก GPU Mali-T760 และ RAM 3GB แบบ DDR4 มาดูคะแนนผลการทดสอบของ AnTuTu, Quadrant Standard, GeekBench และ Basemark OS II กันครับ

Samsung-Galaxy-S6-edge-Benchmark

จากการทดลองเล่นเกม เล่นได้อย่างไหลลื่น แต่หากเล่นเกมที่มีกราฟิกหนักๆ ตัวเคื่องจะร้อนเร็วไปหน่อย

TouchWiz ใหม่บน Android 5.0 Lollipop

Samsung Galaxy S6 edge มาพร้อมกับ Android 5.0 Lollipop พร้อมกับ TouchWiz แบบใหม่ ที่ตัดอะไรหลายๆอย่างที่ไม่จำเป็นออกไป และผสมผสานกับ Materail Design ของ Lollipop ทำให้ดูสะอาด และใช้งานง่ายมากขึ้น

 

Samsung-Galaxy-S6-edge-Theme

Samsung Galaxy S6 ยังมาพร้อมกับธีมต่างๆ ให้เลือกใช้งาน และมีเสียงที่แตกต่างออกไปในแต่ละธีมด้วยนะครับส่วนพื้นหลังก็มีการขยับตามเมื่อเราขยับตัวเครื่องด้วย และงานนี้ Marvel ก็ร่วมมือกับซัมซุง ปล่อยธีม Avengers, Age of Ultron มาให้ใช้งาน

Samsung-Galaxy-S6-edge-Smart-Switch

Smart Switch แอพที่ติดมาในเครื่องด้วย จะช่วยให้คุณย้ายข้อมูลจากสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็น iOS และ Android โดย iOS จะดึงข้อมูลมาจาก iCloud หรือดึงจากตัวเครื่องมาได้เลย (ต้องใช้สาย USB OTG) ซึ่งสามารถดึงรายชื่อ, ข้อความ, ปฏิทิน, ข้อมูลการโทร, นาฬิกาปลุก, เมโม่, บุ๊คมาร์ค, รายชื่อ Wi-Fi, รูปภาพ, เพลง

Samsung-Galaxy-S6-edge-Smart-Manager

Smart Manager เป็นแอพที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง Samsung Galaxy S6 edge โดยสามารถจัดการแบตเตอรี่, หน่วยความจำ, แรม และ ความปลอดภัยได้ โดยสามารถเคลียร์ไฟล์ขญะและแรมพร้อมๆกันได้ด้วยการกดปุ่ม Clear All หรือจะเลือกเข้าไปจัดการทีละอย่างก็ได้

Edge screen 2 ข้าง แต่ต้องเลือก

Samsung-Galaxy-S6-edge-people-edge

เข้าของหลักกันเลยดีกว่า สำหรับขอบจอโค้ง Edge screen ที่ให้มาถึง 2 ข้าง แต่สามารถใช้งานได้ทีละข้างเท่านั้น โดยจะสามารถใช้ People edge ใส่รายชื่อบุคคลสำคัญได้ 5 รายชื่อ และสามารถเปลี่ยนสีได้ถึง 8 สี และเมื่อมีสายโทรเข้าในขณะที่คว่ำหน้าจออยู่ ตรง Edge screen นี้จะแสดงสีตามที่เราตั้งค่าไว้ โดยเรียกฟีเจอร์นี้ว่า Edge lighting

Samsung-Galaxy-S6-edge-people-edge-2

Edge screen มีฟีเจอร์ Night Clock เหมือนบน Samsung Galaxy Note Edge ตั้งเวลาให้แสดงในขอบจอโค้ง เหมือนกับนาฬิกาข้างหัวเตียง และยังมี Information stream ที่จะแสดงผล feed ต่างๆ เช่น ข่าวจาก Yahoo, Miss call, สภาพอากาศ ซึ่งตรงส่วนนี้สามรถดาวน์โหลดฟีดเพิ่มได้ และไม่สามารถใส่ shortcut แอพต่างๆแบบเดียวกับ Samsung Galaxy Note Edge ได้

Samsung-Galaxy-S6-edge-9

กล้องใหม่ ไฉไลกว่าเดิม

Samsung-Galaxy-S6-edge-7

Samsung Galaxy S6 edge ได้ใช้รูรับแสงกว้าง f/1.9 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลมีระบบกันสั่น OIS ช่วยให้ถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น คมชัดขึ้น สำหรับการโฟกัสทำได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังมี Pro mode สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตั้งค่าเวลาถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็น Manual Focus, White Balance, ISO และอื่นๆ ส่วนโหมด Auto ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง ทำได้ดีมากๆ ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง รูรับแสง f/1.9 ถ่ายเซลฟี่ได้สว่างและสวยงามขึ้น พร้อมปรับหน้าเนียนให้อัตโนมัติ

คลิกที่รูปภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

ตัวอย่างภาพถ่ายจากล้องหลัง

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า

 

 

การเชื่อมต่อ

Samsung-Galaxy-S6-edge-8

Samsung Galaxy S6 edge รองรับการเชื่อมต่อ 4G, 3G, Wi-Fi, Bluetooth, NFC และ มีพอร์ตอินฟาเรดสำหรับใช้งานเป็นรีโมทกับทีวีของ Samsung ได้

แบตเตอรี่

Samsung Galaxy S6 edge มีแบตเตอรี่ความจุ 2600mAh ไม่มากและไม่น้อยเกินไปสามารถใช้งานธรรมดาตั้งแต่เช้าถึงเย็นได้ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Wireless Charging และ Fast Charging มาให้ ทำให้ชาร์จเต็มเร็วขึ้น แต่จะต้องใช้สายชาร์จของทางซัมซุงที่รองรับการชาร์จแบบ Fast Charging ด้วย

 

ความคิดเห็นจาก Samsung Party

Samsung-Galaxy-S6-edge-11

Samsung Galaxy S6 edge ถือว่าทางซัมซุงทำการบ้านมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์และวัสดุที่ดูดีขึ้นมาก การใช้งานด้านต่างๆยังมีการปรับปรุง ให้ผู้ใช้งานมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น เช่น การดาวน์โหลดแอพฯของทางซัมซุงได้เพิ่มเติมเอง และด้วย TouchWiz ใหม่ ที่ดูสะอาดตาไม่รกเหมือน TouchWiz เดิมๆแล้ว น่าเสียดายที่ขอบจอโค้ง Edge screen นั้นใช้งานได้ไม่มากเท่ากับ Samsung Galaxy Note Edge แต่ก็ยังมี People edge เข้ามา อย่างน้อยก็สะดวกในการติดต่อกับบุคคลสำคัญของเรา ส่วนกล้องนั้นถือว่าทำได้ดีมากๆ ถ่ายในที่แสงน้อยและตอนกลางคืนนี่นอยส์แทบจะไม่เห็นเลย ภาพคมชัด สวยงาม ย่ิงเป็นตอนกวางวันไม่ต้องพูดถึง สีสันสมจริงมากขึ้นอีกด้วย แต่การใช้งานต่อเนื่องยังส่งผลให้ตัวเครื่องนั้นร้อน เหตุเพราะตัวเครื่องเป็นโลหะด้วย หากใครที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนดีไซน์สวย วัสดุดี และประสิทธิภาพยอดเยี่ยมแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดกับ Samsung Galaxy S6 edge

และถ้าท่านใดไม่รีบ รอดูโปรโมชั่นของ Samsung Galaxy S6 edge ได้ในงาน Thailand Mobile Expo 2015 Hi-End ในเดือนหน้า วันที่ 7-10 พฤษภาคม 2558 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นะครับ 

6 thoughts on “รีวิว Samsung Galaxy S6 edge ขอบจอโค้ง 2 ข้าง ที่สุดแห่งการดีไซน์

  1. จะมีสีเขียว 64gb เข้ามาขายมั้ยครับ จะเข้ามาช่วงไหนหว่า หรือจะมาทัน TME มั้ยย

  2. sumsung s6 edge เล่นไม่ถึง1นาทีเลย ร้อนอยางกับเอาไปตากแดด ทำไมมันร้อนจัง หรือเป็นเพราะกระจกอ่ะ แต่ภาพรวม ทุกอย่างเหนือระดับมาก แต่กลัวมันระเบิดอ่ะร้อนมากเวลาเล่น

    1. ในช่วงใช้งานตอนแรกๆ หลังจากเปลี่ยนเครื่องมา จะมีการดาวน์โหลดข้อมูล หรือซิงค์ข้อมูลอยู่บ้าง เลยส่งผลให้ตัวเครื่องร้อน เท่าที่ผมลองใช้งานมา หลังจากนั้น ก็ใช้งานได้ปกติ แต่ถ้าเปิดกล้องนานหน่อย ก็จะมีอาการเช่นกันครับ

Leave a Reply