ทาง Samsung Mobile ประเทศไทย ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะนำสมาร์ทโฟนแบบแฟ็บเล็ตจอใหญ่รุ่นล่าสุดอย่าง Samsung Galaxy A9 Pro เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ที่รุ่นนี้มีจุดเด่นไม่ใช่แค่เรื่องขนาดหน้าจอที่ใหญ่เต็มตาถึง 6 นิ้ว แต่ยังมีฟีเจอร์เด่นสำหรับการใช้งานให้มาอย่างครบครับ และครั้งนี้ทีมงานของ SamsungParty ได้เข้าร่วมภารกิจการทดสอบความอึดของ Samsung Galaxy A9 Pro ที่มีความจุสูงถึง 5,000 mAh จะสามารถใช้งานแบบเต็มที่ได้นานขนาดไหน
SAMSUNG GALAXY A9 PRO : SPECIFICATION
- หน้าจอขนาด 6 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 4 ขอบโค้งแบบ 2.5D
- ขนาด 161.7 x 80.9 มิลลิเมตร
- หนา 7.9 มิลลิเมตร
- หนัก 210 กรัม
- ระบบปฏิบัติการ Android 6.0 (Marshmallow) ครอบด้วย Touchwiz UI
- หน่วยประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 652 Octa-Core ความเร็ว 1.8 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟฟิค: Adreno 510
- RAM 4 GB
- หน่วยความจำภายใน 32 GB รองรับ microSD สูงสุด 200GB)
- กล้องด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ระบบกันสั่น OIS รูรับแสงกว้าง f/1.9
- โหมดถ่ายภาพ : Pro, Panorama, Continuous shot, HDR, Night และสามารถดาว์นโหลดเพิ่มได้
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.9
- มี NFC
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับระบบ Fast Charge
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
One day trip กับกฎเหล็กคือ “ห้ามปิดหน้าจอ”
ทาง Samsung Mobile ประเทศไทย ได้จัดทริปพิเศษให้กับสื่อมวลชนและบล็อกเกอร์ เดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่อำเภอปากช่อง เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อทดสอบและลองใช้งานแบบไม่ธรรมดา โดยทุกคนจะได้รับเครื่อง Galaxy A9 Pro ที่ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ตั้งแต่ตอนขึ้นรถเพื่อออกเดินทางเวลา 9.00 น. โดยทุกคนจะต้องใช้งานเครื่องตลอดเวลา ห้ามหยุดพักเครื่อง และห้ามปิดหน้าจอเด็ดขาด!! นั่นคือตลอดทั้งวันในการเดินทางครั้งนี้ Galaxy A9 Pro จะทำงานตลอดเวลา เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าด้วยแบตขนาดใหญ่จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานขนาดไหน
ไม่ได้แค่ให้เปิดหน้าจอทิ้งไว้ แต่ใช้งานหนักๆ ตลอดเวลา!
ในทริปนี้ตลอดทั้งเส้นทาง ทีมงาน Samsung ได้จัดกิจกรรมให้ได้ใช้งานเครื่อง Galaxy A9 Pro แบบ non stop ไม่มีหยุด คือไม่ใช่แค่ว่าให้เปิดหน้าจอค้างทิ้งไว้ แต่มีกิจกรรมที่ต้องใช้แอพพลิเคชั่นและฟีเจอร์ความสามารถของเครื่องแบบเต็มที่
- เล่นเกม ในทริปนี้มีเกมให้ทดสอบเล่นวนๆ ไปตลอดทั้งเส้นทางเรียกได้ว่าถ้าว่างเมื่อไหร่ก็ต้องหยิบขึ้นมาเล่น ตัวเกมมีทั้งแนว Casual อย่าง Stack และ Colour Switch Cooking Mama และเกมกราฟฟิคหนักๆ อย่าง Asphalt 8 ถ้านับเวลาในส่วนที่เล่นเกมตลอดทั้งทริปนี้อยู่ที่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- ค้นหาวิดีโอและดูวิดีโอจาก Youtube ตัวสมาร์ทโฟนใช้การเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 4G ที่กินแบตเตอรี่มากกว่าแบบ Wi-Fi การใช้งานทดสอบในส่วนนี้ใช้เวลาต่อเนื่องอยู่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- ถ่ายภาพและตกแต่งภาพ ทางทีมงานจัดแข่ง Photo Rally ที่ เขาใหญ่อาร์ตมิวเซี่ยม ให้เราเก็บภาพงานศิลปะต่างๆ ตามโจทย์ที่กำหนด มาประกอบภาพด้วยคำสั่ง Collage ที่มีมาให้อยู่แล้วในเมนู Gallery ของเครื่อง ไม่ต้องไปหาโหลดใช้จากแอพอื่น ในการทดสอบถ่ายภาพนี้ถ่ายภาพไปทั้งหมดประมาณ 30-40 รูป และช่วงท้ายของทริปก่อนรับประทานอาหารเย็น มีโจทย์ให้ถ่ายคลิปวิดีโอของอาหาร
- ส่งภาพและวิดีโอผ่านแอพพลิเคชั่น LINE เป็นการใช้งานเพื่อสื่อสาร, รับคำสั่ง และส่งคำตอบการเล่นเกมในทริปนี้ทั้งหมด เป็นการใช้งานผ่านเครือข่ายตลอดทั้งวัน
สรุปผลการใช้งานแบบไม่มีหยุดตลอดทั้งวัน
หลังจากจบกระบวนการทดสอบการใช้งาน Samsung Galaxy A9 Pro ปรากฎว่าแบตเตอรี่ยังมีเหลืออยู่อีก 9% จากการใช้งานต่อเนื่องแบบไม่มีหยุด ไม่ปิดหน้าจอ นานถึง 7 ชั่วโมง 18 นาที จะเห็นได้ว่าส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดก็คือตัว Display (ที่ผมเปิดความสว่างสูงสุดตลอดทั้งเส้นทาง) เรียกได้ว่าอึดเกินคาดมาก ด้วยการทดสอบการใช้งานที่หนักหน่วงและมากกว่าการใช้งานตามปกติในชีวิตประจำวัน ที่คงไม่มีใครเปิดหน้าจอใช้งานต่อเนื่องแบบไม่วางพักเลย ถ้าหากว่าใช้งานแบบปกติก็น่าจะมีแบตเตอรี่เหลือมากกว่านี้
ความประทับใจ…ไม่ได้มีแค่เรื่องของแบตเตอรี่
หลังจากได้ลองใช้งานตลอดทริปการเดินทางครั้งนี้ Samsung Galaxy A9 Pro ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจอีกหลายอย่างที่น่าสนใจมากกว่าขนาดแบตเตอรี่ที่ให้มาใหญ่สุดเท่าที่ Samsung เคยใส่เข้ามาไว้ในสมาร์ทโฟน ในส่วนอื่นไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ, สเปคของเครื่อง และรูปลักษณ์การดีไซน์ ถือว่าทำออกมาได้ดีสมกับเป็นตัวท็อปของซีรี่ย์ Galaxy A
- ตัวเครื่องวัสดุพรีเมี่ยม ขอบเครื่องเป็นโลหะ ด้านหน้าใช้กระจก Corning Gorilla Glass 4 เวอร์ชั่นล่าสุด และสวยงามขึ้นด้วยขอบกระจกด้านข้างโค้งแบบ 2.5D ตัวเครื่องถึงแม้ว่าจะมีหน้าจอใหญ่ถึง 6 นิ้ว แต่ลองถือมือเดียวก็ยังถนัดอยู่ แต่มีติดเรื่องน้ำหนักที่ 210 กรัม ซึ่งถือว่าหนักกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ พอสมควร (เนื่องมาจากขนาดของจอและแบตเตอรี่)
- กล้องถ่ายภาพทั้งกล้องหน้าและหลังใช้รูรับแสงขนาดกว้าง f/1.9 ที่ช่วยให้ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดีมากขึ้น สำหรับกล้องด้านหลังมีระบบกันสั่นสะเทือนของภาพแบบ OIS มาให้ด้วย ส่วนเมนูโหมดการถ่ายภาพพื้นฐานมีมาให้ครบ ทั้งโหมด PRO และ HDR นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปดาวน์โหลดโหมดถ่ายภาพเพิ่มเติมได้ด้วย
- อันนี้ค่อนข้างโดนใจเป็นพิเศษ กับตัวถาดซิมและถาดใส่ microSD แยกจากกัน หลังๆ มาสมาร์ทโฟนหลายรุ่นเปลี่ยนมาใช้ระบบถาดซิมแบบ Hybrid ที่ต้องเลือกเอาว่าจะใช้งานใส่ 2 ซิม หรือว่าใส่ 1 ซิมแล้วใส่เพิ่ม microSD แต่กับใน Samsung Galaxy A9 Pro คุณสามารถใส่ซิมแบบ Nano SIM ใช้งานพร้อมกันได้ 2 ซิม และใส่ microSD เพื่อเพิ่มหน่วยความจำภายในเครื่องได้ด้วย
- RAM ที่ Samsung จัดมาให้แบบไม่กั๊กเต็มที่ 4GB ใช้งานเปิดแอพพร้อมกันหลายแอพได้สบายๆ ส่วน ROM ในเครื่องก็ให้มาเป็น 32GB ส่วนระบบปฎิบัติการมาเป็น Android 6.0 Marshmallow ที่คาดว่าน่าจะได้อัพเป็น 7.0 Nougat ในปีหน้า
- สุดท้ายคือเรื่องของราคา ไม่น่าเชื่อว่า Samsung Mobile ประเทศไทยจะเปิดราคาขายของ Samsung Galaxy A9 Pro ที่ 15,900 บาท (ส่วนตัวหลังจากที่ได้จับครั้งแรกคิดในใจว่าสเปคขนาดนี้อย่างน้อยก็ต้อง 16,500-17,900 บาท) ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มมากๆ กับสมาร์ทโฟนจอใหญ่และสเปคให้มาขนาดนี้
Samsung Galaxy A9 Pro จะเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย 22 กรกฎาคมนี้ ทาง Samsung Shop และช่องทางออนไลน์ที่ www.s-estore.com
ชอบมากคะ รุ่นนี้ แบตเตอร์รี่ เยอะดีคะ
ชอบมาก เครื่องไวดีคะ แต่ ภาพสวยสมจริงชัดทุกอณูหนังหน้าจริง เห็นถึงสิวด้านใน อันนี้ โอเวอร์
แต่ เครื่องร้อนไป หน่อยคะ เวลาเล้นนานต่อเนื่องๆๆๆๆ