เมื่อวานนี้ซัมซุงไทยได้เปิดได้จัดงานเปิดตัว Samsung Galaxy S5, Gear 2, Gear Fit ในรอบบล็อคเกอร์ซึ่งแอดมินก็เป็นหนึ่งคนที่ได้ไปร่วมงานและสัมผัส สมาร์ท ทั้ง3เครื่อง ส่วนหน้าตาตัวจริงจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น และวันวางจำหน่ายและ ราคาจะเท่าไรนั้นไปชมกันครับ
โดยเริ่มจาก Samsung Galaxy S5 กันก่อนเลยละกัน ซึ่งในงานก็ได้มี S5 มาให้ลองทั้งหมด 10เครื่อง โดยจะเป็นสีดำทั้งหมด ซึ่งตัวจริงสวยกว่าในรูปเยอะ.. แต่ส่วนตัวมองว่าฝาหลังแบบ Note 3 สวยกว่าครับ แอบเสียดายที่ไม่ได้เห็นสีอื่นๆด้วย
แล้วนี้ก็คือ 5สิ่งที่ชูจุดเด่นของ samsung Galaxy S5 ทั้งหมด ซึ่งจากที่ได้ลองต้องยอมรับเลยว่าทำงานได้ดีและเป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไปจริงๆ
Samsung Galaxy S5 จะวางจำหน่ายในวันที่ 11 เมษายน 2557 โดยจะวางจำหน่ายสีฟ้า สีขาว และสีดำ ส่วนสีทองนั้จะตามมาใน วันที่ 14 พฤษภาคม 2557
พร้อมราคาที่เปิดตัวมาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว 23,800บาท วางจำหน่ายในรุ่น 16GB ส่วนรุ่น 32GB จะตามมาทีหลัง
แล้วนี้ก็คือข้อแตกต่างระหว่าง Samsung Galaxy S5 กับ Samsung Galaxy S4 ครับ
มาถึงตัวจริงกันบ้างจากที่ได้ลองถือและสัมผัสมา ขนาดจะเล็กกว่า Note 3 นิดนึง และมีน้ำหนักที่เบา
ส่วนฝาหลังที่หลายๆคนมองว่าไม่ชอบนั้น ตัวจริงจะดูสวยกว่าในรูปครับ แต่ส่วนตัวก็ยังไม่ค่อยโดนใจเท่าไรนัก
กล้องหลังมาพร้อมความละเอียด 16ล้านพิกเซล พร้อม ISOCELL เซ็นเซอร์เทพจากซัมซุง และเซ็นเซอร์วัดการเต้นของหัวใจเอาไว้ใช้ในการออกกำลังกาย
ด้านบนตัวเครื่องไม่มีอะไรมากดีไซน์ตามภาพเลย
ด้านล่างตัวเครื่องมีจุกปิดเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าเครื่องมือถือ
หากเราต้องการเปิดออกมาก็จะพบกับ USB 3.0 ครับ
ด้านข้างขวา จะมีปุ่มเพาเวอร์ และที่งัดฝาหลังออก
ด้านข้างซ้ายจะมีเพียงปุ่ม เพิ่มเสียงและลดเสียง
เมื่อแกะฝาหลังออกมาจะพบกับช่องใส่ซิม ใส่เมม และแบตเตอรี่ขนาด 2,800 มิลลิแอมป์ ตัวฝาหลังนั้นด้านในมียางป้องกันน้ำจะเข้าเครื่อง
Samsung Galaxy S5 ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมที่สวยงาม และหลากหลายแบบเลยทีเดียว
มาถึงคิวของ อุปกรณ์สวมใส่กันบ้าง Samsung Gear 2 และ Samsung Gear Fit
โดยอุปกรณ์ที่รองรับมีดังนี้
Samsung Gear 2, Gear 2 Neo, Gear Fit
- Note 3, Note 2, Note 3 Neo
- S5, S4, S3, S4 zoom, S4 mini
- Mega 6.3, 5.8
- Grand 2
- Note pro 12.2, Note 10.1 2014
Samsung Gear 2 เปิดราคาที่ 8,900บาท มาพร้อมคุณสมบัติที่กันน้ำ และยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย ที่สำคัญยังใช้คุยโทรศัพท์ รับสายวางสายได้อีกด้วย
นี้ก็คือหน้าตาของ Gear 2 ซึ่งสวยกว่า Gear 1 และใช้งานได้ง่ายกว่าแบตเตอรี่ก็ใช้ได้นานมากขึ้นอีกด้วย
ด้านหลังจะพบเซ็นเซอร์วัดการเต้นของหัวใจ และขั่วทองเหลืองไว้ต่อกับอุปกรณ์เสริมไว้เสียบชาร์ตแบต
ด้านล่างตัวเครื่องจะมีปุ่มโฮมเข้ามาไว้ใช้งาน เพื่มความสะดวกที่มากขึ้นเลยทีเดียว
ด้านบนจะพบกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อม ออโต้โฟกัส
Samsung Gear Fit เปิดราคาที่ 5,900บาท มาพร้อมคุณสมบัติที่กันน้ำ และยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย
ตัวจริงสวยมาก หน้าจอที่โค้งตอบรับกับข้อมือได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว
ด้านหลังจะพบเซ็นเซอร์วัดการเต้นของหัวใจ และขั่วทองเหลืองไว้ต่อกับอุปกรณ์เสริมไว้เสียบชาร์ตแบต
ปุ่มเพาเวอร์ หรือปุ่มโฮมจะอยู่ทางด้านข้าง ซึ่งก็ใช้งานได้สะดวกดีเช่นเดียว
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมของ Gear 2 และ Gear Fit ให้เลือกซื้อเพิ่มเติมอีกเช่นกันครับ
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณซัมซุงไทยแลนด์ที่จัดงานได้เป็นอย่างดี..ส่วนรายละเอียดเรื่อง SoftWare นั้นถ้าได้เครื่องมารีวิวเมื่อไหร่จะมารีวิวแบบจัดเต็มอีกครั้งนะครับ
ที่มา whatphone