หลังจากประกาศราคาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นที่จับตามองของวงการมือถือเป็นอย่างมาก เพราะเปิดตัวราคาเท่ากับ HTC One เป๊ะๆ และยังวางจำหน่ายในเวลาไล่เลี่ยกัน และยิ่งใกล้มหกรรมมือถืออย่าง TME แล้วด้วย สเปคของทั้งสองรุ่นก็ยังสูสี จนคนที่กำลังจะเปลี่ยนรุ่นลังเล อย่างที่เราเคยเทียบให้ดูกันแล้วว่า จุดเด่นของทั้งสองรุ่นมีอะไรบ้าง วันนี้มาวิเคราะห์เจาะลึกให้ดูกันว่า ทำไมต้องเลือก Samsung Galaxy S4 ค่ะ
ในราคาที่เท่ากัน ลองมาเลือกดูจากสเปคเบื้องต้นตามภาพด้านล่างก่อน จะเห็นว่า CPU ที่แรงกว่า 1 เท่าตัว ที่ให้มาถึง 8 Core บนมือถือเป็นตัวแรกของโลก ประหยัดแบตเตอรี่ด้วยการทำงาน 4 Core สลับกัน ได้ระบบปฏิบัติการใหม่กว่า ไม่ต้องรออัพเดท
Hardware
ในด้านดีไซน์การออกแบบของสองรุ่น คงต้องแล้วแต่ความชอบส่วนตัวของแต่ละคน แต่ถ้าในเรื่องวัสดุ Galaxy S4 ใช้พลาสติกโพลีคาร์บอเนต เคลือบด้วย Hyperglaze แบบเดียวกับ Galaxy S3 แต่มีการออกแบบลวดลายที่ฝาหลังให้ดูหรูหราขึ้น ถึงแม้จะมีหลายคนที่ไม่ถูกใจ แต่วัสดุแบบจะจะมีน้ำหนักเบากว่า ช่วยระบายความร้อนได้ดี และช่วยลดแรงกระแทกเวลาทำเครื่องตกได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถถอดฝาหลังเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ เหมาะสำหรับคุณผู้ชายที่ชอบใส่มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกง ต่างจาก HTC One ที่ประกอบขึ้นจากอลูมิเนียม เมื่อใช้สายคุยนานๆ หรือใช้ 3G, ชาร์จแบต จะทำให้เครื่องร้อนได้ง่ายจากวัสดุที่นำความร้อนค่ะ และให้น้ำหนักมากกว่าและตัวเครื่องหนากว่า และวัสดุแบบนี้ ถ้าไม่ได้ใส่เคสก็ลอกได้ง่ายเหมือนกับ iPhone5 ค่ะ และยิ่งถ้าเผลอทำหล่นล่ะเสียโฉมได้เลยทีเดียว
Software
ในเรื่องของ Software น้้น Samsung มีการพัฒนาอยู่ตลอด โดยได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ลงในมือถือ flagship อยู่ประจำค่ะ Galaxy S4 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการตัวล่าสุด Android 4.2 (Jelly Bean) พร้อมกับ Interface แบบ TouchWiz Nature UX เวอร์ชั่นล่าสุด ให้ความสวยงามด้วย Effect ที่เพิ่มขึ้นมา และรูปลักษณ์ที่เรียบแต่หรู ใช้งานและปรับแต่งได้มากมาย พร้อมใส่ฟีเจอร์มาให้อีกมากมาย อย่างเช่น การสั่งงานเครื่องด้วย motion, การตรวจจับดวงตาเพื่อเลื่อนหน้าจอด้วยเซ็นเซอร์และกล้องหน้า การถ่ายภาพและวีดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ฟังก์ชั่นเหล่านี้นับว่าทำได้ดีมากๆ เมื่อเทียบกับ HTC One ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.1 (Jelly Bean) เท่านั้น กับ Interface ที่ชื่อว่า The New Sense ที่มีฟีเจอร์เด่นอย่าง BlinkFeed ที่เป็นการรวมเอาฟีดของ Social Network ต่างๆ มาแสดงผลที่หน้าจอ HomeScreen นอกจากนั้น ยังมีจุดเด่นที่ระบบเสียง ที่มีลำโพงคู่แบบ Storeo มี Amplify ในตัว มากับระบบเสียง Beats Audio และ HTC BoomSound ที่สามารถถ่ายทอดเสียงเพลงหรือหนังออกมาได้กระหึ่ม แต่ในจุดนี้ Galaxy S4 ก็ได้รับการยืนยันจากกูรูด้านเสียงเพลงแล้วว่า ลำโพงหลังก็มีคุณภาพที่ดี ให้เสียงที่สมจริงมากเลยทีเดียว
Camera
Galaxy S4 มีความละเอียดกล้อง 13 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์กล้องมากมาย เช่น Dual shot ถ่ายภาพพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและหลัง, Drama shot ถ่ายภาพ 100 shot ใน 4 วินาที แล้วรวมเป็นภาพเดียวกันเพื่อความแปลกใหม่, Eraser : เลือกภาพที่ดีที่สุดจากการถ่ายภาพ 5 ภาพใน 1 ครั้ง เพื่อลบส่วนเกินออกจากภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโหมดกล้องได้ที่นี่
ส่วน HTC One มากับกล้อง 4 ล้านพิกเซล แบบ UltraPixels ที่เซ็นเซอร์กล้องใหญ่และรับแสงได้มากขึ้น แต่เมื่อรับแสงได้มาก นั่นก็อาจจะหมายถึง เกรนของภาพหรือ noise ก็จะเยอะไปด้วยนะคะ ถึงแม้ความละเอียดเท่านี้จะเพียงพอต่อการแชร์ผ่าน Social Network อย่างที่เรานิยมทำ แต่อย่าลืมว่า ถ้าเราใช้ถ่ายภาพเก็บความประทับใจในสถานที่ที่เป็นความทรงจำที่ดี กล้องที่ดีกว่าย่อมเกิดการผิดพลาดน้อยกว่า แต่ในส่วนของกล้องนี่ต้องลองไปทดลองเล่นตัวจริงในงานกันเองว่าใครจะถูกใจแบบไหน ลองมาดูภาพตัวอย่างที่ไปถ่ายเปรียบเทียบมาให้ดูกัน (ภาพถ่ายทั้งหมดมาจากเครื่องทดสอบ เฟิร์มแวร์อาจจะยังไม่สมบูรณ์ โปรดใช้วิจารณญาณ)
รูปนี้เพิ่งถ่ายเมื่อซักครู่ ภาพจาก Galaxy S4 ให้สีที่สมจริง
ตั้งโหมดออโต้ และซูมสุด 4x ผลลัพท์ได้ดั่งภาพค่ะ
ลองถ่ายในที่แสงน้อย พบว่า HTC One ภาพไม่ค่อยคมชัดค่ะ
สรุป
สิ่งที่ HTC One ทำได้เหนือกว่า Galaxy S4 ที่เด่นชัดก็เป็นเพียงแค่ระบบเสียงและวัสดุเครื่องที่ดี แต่สำหรับ Galaxy S4 แล้ว ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่า มีฟีเจอร์ที่เพิ่มมาเพื่อตอบสนองการใช้งานในยุคนี้ได้ดี ลูกเล่นต่างๆ สามารถใช้งานได้จริงและเป็นประโยชน์ มี UI ที่โดดเด่นสวยงาม ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ไปดูสรุปแบบชี้ชัดเป็นข้อๆ ได้ที่นี่ ค่ะ
Samsung Galaxy S4 วางจำหน่ายต้นเดือนพฤษภาคมนี้ แต่อยากให้อดใจรออีกครึ่งเดือน เพราะของในล็อตแรกจะมาน้อยและไม่ครบสี ให้ไปซื้อพร้อมกันในงาน TME เพราะจะมีโปรผ่อน 0% กับบัตรเครดิตต่างๆ, โปร Cash back, ของแถมจาก Samsung และรับของแถม 2 ต่อจาก Dealer อื่นๆ ในงาน, มีกิจกรรมชิงรางวัลและยังมีติดฟิล์มกันรอยฟรีในบางร้านด้วย แต่ถ้าสุดท้ายแล้ว ยังตัดสินใจตอนนี้ไม่ได้ ก็กำเงิน 21,900 บาท เดินเข้าไปทั้งสองบูธ แล้วทดลองจับเครื่องจริง ที่มีให้ทดสอบมากมาย และยังมีพนักงานคอยตอบคำถามในสิ่งที่ยังสงสัยอีกด้วย สำหรับโปรโมชั่นของ Galaxy S4 ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้น่าจะทยอยออกมาให้เห็นแล้ว ยังไงจะอัพเดทให้เรื่อยๆ ค่ะ